ท้าวหิรัญพนาสูร เทพแห่งการปัดเป่าป้องกันภัยที่ ร.๖ เคารพบูชา

ท้าวหิรัญพนาสูร

ท้าวหิรัญพนาสูร เรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับเทพผู้คอยปกปักรักษาและดูแลผู้คนให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆ อย่าง “ท้าวหิรัญพนาสูร” หรือ “ท้าวฮู” ยังคงได้รับการกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน

เพราะชื่อเสียงของท่านมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ที่เหล่าผู้ใกล้ชิดต่างก็รู้กันดีว่าพระองค์ท่านเคารพและบูชาท่านท้าวหิรัญพนาสูรเป็นอย่างมาก ท้าวหิรัญพนาสูร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ท้าวหิรัญพนาสูร พุทธคุณ <–คลิกอ่าน

ท้าวหิรัญพนาสูร คาถา <–คลิกอ่าน

ท้าวหิรัญพนาสูร อยู่ที่ไหน <–คลิกอ่าน

เพราะถือเป็นเทพผู้มากในสัมมาทิฐิหรือเทพผู้ประพฤติตนดำรงอยู่ภายใต้ความดีงามเสมอ

 

โดยช่วยปกป้องคุ้มครองและกันภัยต่างๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นภัยจากภายนอกหรือแม้แต่ภัยภายในอย่างโรคร้ายนานาชนิด อิทธิฤทธิ์ของท่านก็สามารถช่วยบำบัดปัดเป่าให้ผ่อนคลายหายดีจากโรคนั้นๆ ได้อีกด้วย

 

ท้าวหิรัญพนาสูร
ท้าวหิรัญพนาสูร เทพแห่งการปัดเป่าป้องกันภัยที่ ร.๖ เคารพบูชา

ประวัติของท่านท้าวหิรัญพนาสูร

ท้าวหิรัญฮู คือ, ท้าวหิรัญฮู ประวัติ – ท้าวหิรัญพนาสูรถูกจัดให้เป็นเทพผู้ปกปักรักษาและป้องกันภัยต่างๆ ให้แก่บุคคลที่บูชา โดยมีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า “ท้าวหิรัญฮู” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 6

 

พร้อมการถูกเล่าขานจากคนในอดีตมาจนถึงปัจจุบันเรื่องของการป้องกันภัยในทุกด้านแม้แต่ด้านของสุขภาพ

 

ด้วยแรงศรัทธา พาไปไหว้ท่าน ท้าวหิรัญพนาสูญ
ขอขอบคุณ ภาพจาก Horothailand.com

 

ดังนั้นผู้คนยุคใหม่จึงพากันกราบไหว้และบูชา เพื่อขอให้ท่านท้าวหิรัญพนาสูรกำจัดโรคร้ายต่างๆ ที่เข้ามาภายในชีวิต

 

สำหรับเรื่องของชื่อเสียงท้าวหิรัญพนาสูรใช่ว่าจะเป็น แค่เรื่องร่ำลือ เพราะมีเหตุการณ์จริงที่ถูกบันทึกไว้หลายเหตุการณ์

โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ท่านเคารพบูชาเทวรูปท้าวหิรัญพนาสูร ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งมีข้าราชบริพารผู้อารักขาพระมหากษัตริย์ ได้พบเห็นร่างของยักษ์ที่ดูดุร้ายและน่ากลัวอยู่ภายในพระราชวัง โดยเฉพาะในช่วงของยามวิกาล

แต่ในช่วงเวลาปกติกลับพบเห็นเป็นชายผู้มีรูปงาม แต่ยังคงดูมีบารมีและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก มักจะพบเห็นว่าอยู่ใกล้ตัวพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอ จึงกลายเป็นเรื่องราวร่ำลือกันมาจนถึงปัจจุบัน

 

ตำนานท้าวหิรัญพนาสูร พระราชวังพญาไท EP.19 (Full) I ช่องส่องผี

YouTube video

 

EP6: ตำนาน ท้าวหิรัญพนาสูร

YouTube video

 

คนแห่ไหว้ “ท้าวหิรัญพนาสูร” รพ.พระมงกุฎฯ ขอพ้นโควิด หลังคำทำนายระบาดแรงเดือนนี้|ทุบโต๊ะข่าว|06/08/64

YouTube video

 

ในสมัยของรัชกาลที่ 6 เชื่อกันว่าพระมหากษัตริย์จะสื่อสารกับ “โอปปาติกะ” ได้และสามารถที่จะทอดพระเนตรเห็นผู้ที่ล่วงลับไปแล้วในสถานที่ต่างๆ หรือเป็นผู้ที่กลับมาหา มาเยี่ยมเยียน ที่สำคัญคือรัชกาลที่ 6 มีชื่อเสียงในเรื่องของการมีความสามารถด้านการสื่อสารกับวิญญาณได้

โอปปาติกะ คือเหล่าสัตว์สิ่งมีชีวิตที่เกิดผุดขึ้น เป็นตัวทันทีโดยฉับพลัน พอเกิดแล้วโตทันที ไม่ต้องอยู่ในครรภ์ โดยมีลักษณะเป็นกายทิพย์ มองไม่เห็นด้วยตาของมนุษย์ สามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ เทวดา, สัตว์นรก, มนุษย์บางจำพวก, และเปรต

 

ดังนั้น ท้าวหิรัญพนาสูรจึงเปรียบเสมือนผู้อารักขาที่จะคอยติดตามพระองค์ไปทุกที่ เพื่อป้องกันและระวังภัยให้กับพระองค์เสมอมา

 

ท้าวหิรัญฮู

 

ท้าวหิรัญพนาสูร ประสบการณ์: และในอีก 1 บันทึกแห่งหน้าประวัติศาสตร์ช่วงปี 2522 ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้มีการระบุว่าสตรีท่านหนึ่งเกิดอุบัติเหตุในขณะขับรถยนต์ จึงทำให้ขาทั้งสองข้างหักและต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นเวลานาน (ท้าวหิรัญพนาสูร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม)

 

ช่วงเริ่มแรกของการรักษารู้สึกถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างมาก อาการเจ็บปวดนั้นรุนแรงจนถึงขั้นหมดสติ แต่ในขณะที่กำลังจะหมดสติกลับพบกับชายที่มีลักษณะน่าเกรงขาม ยืนอยู่ข้างเตียง สตรีท่านนี้สัมผัสได้ว่าคือท่านท้าวหิรัญพนาสูรอย่างแน่นอน

 

ทำให้รีบยกมือไหว้และขอให้ท่านดลบันดาลให้ความเจ็บปวดนี้หายอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากการฟื้นคืนสติได้ไม่นาน อาการของสตรีที่ได้รับบาดเจ็บกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและหายเจ็บเร็วกว่าปกติอีกด้วย

ดังนั้นจึงทำให้ชื่อเสียงของท้าวหิรัญพนาสูรกลายเป็นที่รู้จักของทั้งคนในรั้ววังและคนนอกวังขึ้นมาทันที ทั้งยังคงมีอีกหลากหลายปาฏิหาริย์ที่มีผู้พบเจอกับตัวในการขอพรเรื่องของการป้องกันภัย, เรื่องของสุขภาพ และขอให้หายจากโรคร้ายต่างๆ แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

 

ท้าวหิรัญพนาสูร คือใคร: ท้าวหิรัญพนาสูรถูกจัดให้อยู่ในประเภทของเทพเจ้าอสูร เพราะมีหน้าหนึ่งเป็นยักษ์ที่ดูดุร้ายและน่าเกรงขาม ส่วนอีกหน้าหนึ่งจะเป็นเทพที่มีหน้าตาและรูปร่างงดงาม

จะถืออาวุธประจำกายเป็น “ธารพระกร” หรือไม้เท้า ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบแรกของการเป็นเทวรูปจากเงินแท้ที่มีความสูง 20 เซนติเมตร เป็นจำนวน 4 องค์ด้วยกัน

ถูกออกแบบให้เป็นผู้ชายที่มีร่างสูงใหญ่ ล่ำสัน และเป็นรูปร่างของชายไทยโบราณที่มีความแข็งแรง จะถือธารพระกรที่เป็นอาวุธอยู่ทางด้านพระหัตถ์ขวา

แต่หากเป็นองค์พระราชทานจากพระยาอนิรุทธเทวาแล้ว จะถูกปรับเปลี่ยนให้ท้าวหิรัญพนาสูรถืออาวุธอยู่ที่ฝั่งพระหัตถ์ซ้ายแทน

จึงเป็นความต่างที่ทำให้สามารถสังเกตได้ว่าท้าวหิรัญพนาสูรในแต่ละรูปแบบถูกสร้างในช่วงใดบ้าง

 

ท้าวหิรัญพนาสูร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม.

 

เมื่อช่วงสมัยของรัชกาลที่ 6 พระองค์จะตั้งท้าวหิรัญพนาสูรไว้ข้างแท่นบรรทมเสมอ และจะมีการเชิญตามเสด็จไปทุกหนแห่ง

 

เมื่อจบรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 พร้อมขึ้นสู่เป็นรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการพระราชทานท้าวหิรัญพนาสูรของรัชกาลที่ 6 ให้กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์รัตนราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี เพื่อเป็นการคุ้มครองและป้องกันภัยวังรื่นฤดีโดยเฉพาะ และมีจะมีการทำพิธีอัญเชิญเพื่อให้ตามเสด็จไปทุกที่ด้วยเช่นกัน

จากนั้นองค์ที่ 2 ได้พระราชทานให้แก่พระยาอนิรุทธเทวาหรือหม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ

องค์ที่ 3 ได้พระราชทานไว้ที่หน้ารถยนต์พระที่นั่ง

และองค์ที่ 4 ถูกจัดตั้งไว้ที่กรมมหาดเล็กหลวง จากนั้นก็ถูกโยกย้ายขึ้นสู่ชั้นบนของพระที่นั่งราชกรัณยสภา

 

จนกระทั่งในช่วงปี พ.ศ. 2465 ได้มีการสร้างพระราชวังพญาไท (Phayathai Palace) จึงได้โปรดเกล้าให้หล่อเทวรูปท้าวหิรัญพนาสูรองค์ใหญ่ที่ถูกทำขึ้นจากเนื้อทองสัมฤทธิ์ มีการเพิ่มรายละเอียดของการใส่ชฎาแบบเทริดไทยและมีการใส่เครื่องประดับยศให้ครบสมบูรณ์แบบ

 

พร้อมการบวงสรวงด้วยพิธีใหญ่ เพื่ออัญเชิญท้าวหิรัญพนาสูรเข้าสู่รูปเทวาสัมฤทธิ์ และกลายมาเป็นหนึ่งในศาลเทพารักษ์ประจำของพระราชวังพญาไทมาจนถึงปัจจุบัน

 

พระราชวังพญาไท
พระราชวังพญาไท

 

ท้าวหิรัญพนาสูร อยู่ที่ไหน

ศาลท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู) ตั้งอยู่ที่ศาลด้านหลังของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ด้านข้างตึกมหาวชิราลงกรณ์

รถโดยสารประจำทาง: 108, 97, 18, 8, ปอ.522, ปอ.539

รถไฟฟ้า BTS: สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

แผนที่ Google Maps: https://goo.gl/maps/RgBQZcGLhE65b4NLA

 

 

ความอัศจรรย์ที่ทำให้ท้าวหิรัญพนาสูรเป็นที่เคารพบูชาของรัชกาลที่ 6

ปาฏิหาริย์ ท้าวหิรัญพนาสูร – จุดกำเนิดของท้าวหิรัญพนาสูรที่ถูกร่ำลือมาจนถึงปัจจุบัน โดยเกิดขึ้นในสมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 เพราะมีเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์ที่ทำให้พระองค์เคารพและบูชาท่านท้าวหิรัญพนาสูรเป็นอย่างมาก

โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2449 ที่พระองค์ท่านยังคงเป็นเพียงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งพระองค์ได้ประพาสมณฑลพายัพเพื่อไปสู่เมืองอุตรดิตถ์ ด้วยความที่สภาพแวดล้อมดั้งเดิมยังคงเป็นป่ารกทั้งสองข้างทาง จึงทำให้ผู้ติดตามพระองค์รู้สึกกลัวถึงเภทภัยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางได้ ดังนั้นจึงได้มีการจัดสร้างพลับพลาที่ประทับอย่างระมัดระวัง จัดให้มีความมิดชิดและมีความปลอดภัย

แต่ในขณะที่กำลังเดินทางนั้นพระองค์ได้พระสุบินอย่างชัดเจนว่ามีชายร่างกายสูงใหญ่ และมีลักษณะแข็งแรง ผิวกายเข้ม นุ่งผ้าแบบคนโบราณ โดยมีรายเชิงเป็นสีแดงและมีอาภรณ์ประดับทั่วตัว สวมชฎา แต่จะไม่สวมเสื้อ มีลักษณะที่ดูสง่างามและน่าเกรงขาม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความนอบน้อม ดูเป็นมิตร

ซึ่งชายผู้นั้นได้เดินเข้ามาหาพระองค์ที่ปลายพระบรรทม พร้อมสื่อสารให้พระองค์ท่านได้รับรู้ว่า จะขอเป็นข้าราชบริพารเพื่อติดตามพระองค์ไปทุกหนทุกแห่งและจะคอยปกปักรักษาแทบเบื้องยุคลบาท จะป้องกันภัยไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ แก่พระองค์ได้

 

YouTube video

 

หลังจากตื่นพระบรรทมรัชกาลที่ 6 จึงได้จัดพิธีบูชาท้าวหิรัญพนาสูรทันที โดยจะเป็นการจัดทั้งดอกไม้ ธูปเทียน และอาหาร กับเครื่องเซ่นต่างๆ ไว้ที่ริมพลับพลา

หลังจากนั้นเหล่าข้าราชบริพารก็เริ่มรับรู้ได้ถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากท้าวหิรัญพนาสูรมาโดยตลอด จึงทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เล่าขานกันมาจนถึงยุคคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีหลากหลายเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ท้าวหิรัญพนาสูรกลายมาเป็นที่เคารพบูชาของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 และเหล่าข้าราชบริพารกับประชาชนทั่วไป ดังต่อไปนี้

 

1. การพบเห็นองค์จริงของท้าวหิรัญพนาสูร

หลังจากที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้ตั้งเครื่องเซ่นไหว้และบูชาท้าวหิรัญพนาสูรอย่างเป็นทางการแล้ว ข้าราชบริพารและทหารที่อยู่ใกล้ตัวพระองค์ มักจะพบเห็นองค์จริงของท้าวหิรัญพนาสูรทั้งในภาคยักษ์และภาคปกติอยู่เสมอ

โดยเฉพาะข้าราชบริพารที่อยู่ใกล้ชิดรัชกาลที่ 6 ในช่วงเวลาบรรทม มักจะพบเห็นท้าวหิรัญพนาสูรในรูปแบบองค์ยักษ์ที่มีหน้าตาดุดันและดูน่าเกรงขาม เดินวนเวียนไป-มาอยู่รอบห้องพระบรรทม

แต่ในยามรุ่งเช้าจะมีผู้พบเห็นเป็นองค์ที่มีรูปร่างสง่างาม ผิวพรรณผ่องใสเปล่งปลั่งและเป็นชายไทยที่หน้าตาดีเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ที่พบเห็นส่วนใหญ่จะพบในลักษณะคล้ายกัน คือ อยู่ใกล้ชิดพระองค์หรือวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ที่ประทับเสมอ

การพบเห็นนั้นมีมาโดยตลอด จนกระทั่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้เสด็จสวรรคต ข้าราชบริพารจึงพบเห็นท้าวหิรัญพนาสูรทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนน้อยลง จนกระทั่งหายไปในที่สุด แต่ชื่อเสียงของท่านยังคงอยู่และมีความเชื่อว่ายังคงปกป้องผู้คนที่เคารพบูชามาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

 

2. การขอพรที่สัมฤทธิ์ผล

ท้าวหิรัญพนาสูร ขอพร – การขอพรท้าวหิรัญพนาสูรในเรื่องของความปลอดภัย อายุที่ยืนยาว และขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่ร้ายแรงต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นการบอกต่อกันถึงเรื่องราวที่ท้าวพนาสูรสามารถปัดเป่าเภทภัยและ ภยันตรายต่างๆ รวมไปถึงโรคร้ายออกจากชีวิตผู้ที่เคารพบูชาท่านได้อย่างดี

ดังเช่นเชื้อพระวงศ์ของตระกูลดิศกุลที่เคยประชวรจนทำให้ปัสสาวะออกมาเป็นเลือด เมื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท

ผลสรุปออกมาว่าท่านต้องผ่าตัด พระญาติที่ใกล้ชิดจึงได้นำดอกไม้ ธูปเทียน และของสักการะ ไปกราบไหว้ท่านท้าวหิรัญพนาสูรที่ประดิษฐ์อยู่ ณ บริเวณของโรงพยาบาล (ท้าวหิรัญพนาสูร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) จากนั้นไม่นานโรคของเชื้อพระวงศ์พระองค์นั้นกลับหายเป็นปลิดทิ้ง สุขภาพแข็งแรงขึ้น ทั้งยังหายแบบรวดเร็วจนไม่ต้องรับการผ่าตัดแต่อย่างใด

จึงกลายเป็นเรื่องราวที่เล่าขานกันถึงปาฏิหาริย์ของการปัดเป่าโรคร้าย ที่แม้แต่ระดับเชื้อพระวงศ์ก็สัมผัสได้ด้วยตัวเอง

 

“ท้าวหิรัญพนาสูร” กับความเชื่อขอพรให้หายโรค

ท้าวหิรัญพนาสูร pantip

 

3. การพบเรื่องแปลกบนรถพระที่นั่ง

เมื่อล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้สวรรคตลงแล้ว มาสู่ช่วงของรัชกาลที่ 7 ได้ขึ้นเสวยราชย์แทน พระองค์ยังคงใช้รถพระที่นั่งของรัชกาลที่ 6 อยู่ เพราะเป็นพระราชมรดกที่ตกทอดมาสู่พระองค์และทุกครั้งที่จะเดินทาง พระองค์จะมีกรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์เสด็จติดตามไปด้วยเสมอ ซึ่งท่านกรมหมื่นได้กราบทูลขอรถยนต์พระที่นั่งที่มีรูปท่านท้าวหิรัญพนาสูรติดอยู่ภายในรถ รัชกาลที่ 7 จึงทรงพระราชทานให้กับทางกรมหมื่น

และหลังจากนั้นก็มีเรื่องเล่าจากท่านว่าได้นำรถที่รับพระราชทานมาจอดไว้ที่วังสี่แยก บริเวณหลานหลวง เมื่อกลับมาบ้านก็รู้สึกไม่สบายใจ นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงเหมือน มีคนรื้อของในโรงเก็บรถอยู่ตลอดทั้งคืน ครั้นพอลุกไปดูกลับไม่พบอะไร จึงกลับเข้านอนตามปกติและคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของหนู

แต่ในท้ายที่สุดกลับมีไฟของรถติดสว่างขึ้นมาแบบกะทันหัน จึงทำให้รู้สึกสะดุ้งจนต้องลุกขึ้นมาเปิดโรงรถอีกครั้ง พร้อมการเรียกทั้งคนขับและมหาดเล็กรักษาพระองค์มาช่วยกันดูว่าเกิดจากสาเหตุใด หรืออาจจะมีโจรขโมยหรือไม่

แต่เมื่อเปิดประตูรถมาแล้วกลับไม่พบใดๆ ทั้งสิ้นและไม่มีใครอยู่ภายในโรงรถเลย

แต่เรื่องที่ทำให้รู้สึกแปลกใจและยังเป็นที่สงสัยมาจนถึงปัจจุบัน คือ สภาพของรถที่จอดเป็นแนวขวาง ทั้งที่ในตอนแรกรถนั้นอยู่ในลักษณะการจอดเข้าซองตามปกติ

กรมหมื่นจึงได้ขับรถให้เข้าไปจอดใหม่ในลักษณะเช่นเดิม และในช่วงเช้าจึงได้มีการจัดเครื่องเซ่นสังเวยให้ท่านท้าวหิรัญพนาสูร เพื่อเป็นการขอขมาในการใช้รถและหลังจากนั้นได้จอดเก็บไว้ในโรงรถตลอด เพราะไม่กล้านำออกมาใช้งาน

 

4. อาการเจ็บป่วยที่หายได้อย่างรวดเร็ว

ช่วงที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้ออกประพาสต่างจังหวัด เหล่าข้าราชบริพารรู้สึกกลัวถึงภยันตรายต่างๆ และเรื่องของโรคร้ายที่จะมากับป่าเป็นอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่มีการเสด็จประพาสและต้องแวะพักระหว่างทาง พร้อมกับเดินทางผ่านป่าดงดิบตลอดทั้งวัน จะมีข้าราชบริพารจำนวนมากที่ล้มป่วยและอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต

แต่หลังจากที่รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาส เมืองอุตรดิตถ์ที่ต้องผ่านป่าดงดิบและแวะพักภายในป่าเขาอันรกทึบ กลับไม่มีข้าราชบริพารคนใดเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เคยมีอาการเจ็บป่วยมาอยู่แล้วกลับหายดี

เพราะเพียงแค่อธิษฐานจิตขอให้ท่านท้าวหิรัญพนาสูรได้คุ้มครองและทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น

ดังนั้นก่อนทุกการเดินทางจึงทำให้ทั้งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 และข้าราชบริพารจะต้องทำเครื่องเซ่นสังเวยและกราบไหว้องค์ท้าวหิรัญพนาสูรเสมอมา

 

5. ปาฏิหาริย์ที่พระราชวังพญาไท

สำหรับปาฏิหาริย์ที่พระราชวังพญาไท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ร่ำลือกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงของการก่อสร้างเทวรูปท้าวหิรัญพนาสูร โดยเป็นการออกแบบของพระยาอาทรธรศิลป์หรือหม่อมหลวง ช่วง กุญชร ที่มีมิสเตอร์แกลเลตตี เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งมิสเตอร์แกลเลตตีนั้นเป็นนายช่างจากอิตาลี เป็นผู้ที่ทำงานภายในกรมศิลปากรและเป็นผู้หล่อเทวรูป

ในช่วงที่จะยกเทวรูปของท้าวหิรัญพนาสูรขึ้นตั้งบนฐาน นายช่างกลับนำเชือกไปผูกไว้ที่คอของท่านท้าวหิรัญพนาสูร แล้วทำการชักรอกขึ้นไปเพื่อติดตั้งบนฐานของพระราชวังพญาไท

แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่มิสเตอร์แกลเลตตีป่วยด้วยอาการคอเคล็ดแบบไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังเป็นอาการป่วยกะทันหันที่ทำให้งานต้องหยุดชะงักลง

แต่เมื่อพระยาอาทรได้ไปเยี่ยม แล้วทราบว่าสาเหตุเกิดจากการนำเชือกไปผูกไว้ที่คอของเทวรูปท่านท้าวหิรัญพนาสูร จึงได้มีการนำดอกไม้ ธูปเทียน และพามิสเตอร์แกลเลตตีไปขอขมา

เมื่อนายช่างผู้นี้ได้ทำตาม อาการป่วยคอเคล็ดก็กลับหายดีอย่างรวดเร็ว และกลับมาเป็นปกติพร้อมทำงานให้เสร็จสิ้นแบบน่าอัศจรรย์ใจเลยทีเดียว

 

ท้าวหิรัญพนาสูร พุทธคุณ

YouTube video

 

วิธีบูชาท้าวหิรัญพนาสูร

ท้าวหิรัญพนาสูร คาถา, ท้าวหิรัญพนาสูร ไหว้ – คาถาบูชาท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู) ดังนี้

.. . จุดธูป 16 ดอก พร้อมตั้งนะโม 3 จบ . ..

ระหินะ ภูมาสี
ภะสะติ นิรันตะรัง
ลาภะสุขัง ภะวันตุเม

(สวดทั้งหมด 9 จบ)

 

คาถาบูชา ท้าวหิรัญพนาสูร

YouTube video

 

เช่าบูชาท้าวหิรัญพนาสูร ที่ไหน

Facebook group ‘ท้าวหิรัญพนาสูร-ฮู

 

ส่องเหรียญ ท่านท้าวหิรัญพนาสูร

YouTube video

 

ถ้าคุณเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านท้าวหิรัญพนาสูร แต่ยังไม่รู้ถึงต้นกำเนิดหรือที่มาที่ไปของท่านและยังไม่รู้ว่าสรรพคุณของท่านช่วยในด้านใดบ้าง เพียงแค่คุณอ่านบทความนี้ เชื่อว่าคุณจะเข้าใจได้มากขึ้นและพร้อมที่จะขอพรท่านท้าวหิรัญพนาสูรอย่างถูกต้องแน่นอน นิพพานกิฟ ของชำร่วยออนไลน์

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

 
 
 

Product added!
The product is already in the wishlist!
Removed from Wishlist

The product has been added to your cart.

Continue shopping View Cart

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่ม ตั้งค่า 

ยอมรับทั้งหมด Accept Required Only